บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
คือ อาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากการได้รับ โปรตีนบางชนิดในนมวัว โดยอาจเข้าสู่ร่างกายตั้งแต่อยู่ในครรภ์คุณแม่ เนื่องจากคุณแม่กินนมวัวเพื่อบํารุงครรภ์ หรือได้รับเข้าสู่ร่างกายหลังจาก คลอดแล้ว แต่เนื่องจากทารกยังมีข้อจํากัดของระบบการย่อย และระบบ ภูมิคุ้มกันในลําไส้ที่ ไม่แข็งแรง อีกทั้งมีระบบน้ําย่อยยังไม่สมบูรณ์ และเซลล์ เยื่อบุทางเดินอาหารยังอยู่กันห่างๆ จึงทําให้#โปรตีนแปลกปลอม ของนมวัว เล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายของทารกที่มีความเสี่ยง (ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติโรคภูมิแพ้ในครอบครัว หรือผู้ที่แม่ดื่มนมวัวหรือผลิตภัณฑ์นมวัวขณะตั้งครรภ์) สร้างภูมิต่อต้านชนิดผิดปกติขึ้นในร่างกาย ซึ่งจะไวต่อสารก่อภูมิแพ้ประเภทอื่นอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอากาศ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น ซากแมลงสาบ เกสรหญ้าหรือดอกไม้ รังแค หมา แมว นก หรือสารก่อแพ้จากการกิน เช่น นมวัว ถั่ว ไข่ หรืออาหาร ทะเล
ต่อมาหากมีการได้รับนมวัวหรือสารก่อภูมิแพ้เข้าไปอีก ภูมิต่อต้านจะ มาทําปฏิกิริยาทันที เกิดเป็นอาการเจ็บป่วยได้หลายรูปแบบ เช่น
• ระบบผิวหนัง มักมีผิวแห้ง แพ้เหงื่อ เป็นผื่นแดงเม็ดเล็กคล้าย เม็ดทรายหยาบๆ บนใบหน้า แขนขา และลําตัว สะเก็ดชันตุที่หนังศีรษะ มีอาการ คัน เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง น้ําเหลืองเยิ้ม หรือเป็นผื่นลมพิษ
• ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ คันตา คัดจมูก จาม น้ํามูกไหล เลือดกําเดาไหล เสมหะครืดคราดในลําคอ นอนกรน อ้าปากหายใจ หายใจ เสียงดังวี้ด หรือ#หอบหืด ไอเรื้อรัง #ไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิลและ #ต่อมอดีนอยด์อักเสบ และเมื่ออักเสบบ่อยๆ จะทําให้มีขนาดใหญ่ผิดปกติจน อุดกั้นทางเดินหายใจ หมอเคยเจอเด็กอายุ 10 ขวบมีอาการกระพริบตาตลอดเวลา ไม่ได้มีอาการอื่นๆ ตอนเด็กๆก็ไม่ได้ป่วยบ่อยจนผิดสังเกต เมื่อแนะนำให้หยุดกินนมวัว อาการกระพริบตาบ่อยๆก็หายไป เมื่อลองกลับมากินใหม่ ก็เป็นอีก เป็นตัวอย่างที่ดีว่า แพ้นมวัวนั้นเกิดขึ้นได้ทุกอายุ ขอให้ลองสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองและคนรอบข้างกันบ้างเถิด
• ระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาเจียน ท้องผูก แหวะนม ท้องอืด ปวดท้อง ร้องกวนโคลิค ทําให้เป็นเด็กนอนน้อย นอนหลับไม่สนิท เลี้ยงยาก น้ําหนักขึ้นน้อย เลี้ยงไม่โตเพราะลําไส้ไม่ดูดซึมอาหาร ไม่ชอบกินนมหรือกินนมยาก ท้องเสียบ่อยๆ หรือถ่ายเป็นมูกเลือด (ถ้าเป็นทารก คลอดก่อนกําหนดที่แพ้โปรตีนนมวัว นอกจากจะถ่ายเป็นมูกเลือด อาจมี การติดเชื้อแทรกซ้อน ทําให้ลําไส้เน่า ลําไส้ทะลุ หากเชื้อแบคทีเรียเล็ดลอดเข้ากระแสเลือด ทําให้ติดเชื่อในกระแสเลือดและเสียชีวิต)
• ระบบอื่นๆ เช่น อาการช็อกรุนแรง ปากบวม หน้าบวม ตัวเขียว หายใจลําบาก ความดันตก จนถึงขั้น เสียชีวิตได้ อาการแบบนี้เจอไม่บ่อย เพราะถ้าพบบ่อย นมวัวคงเสียชื่อเสียงมากไปนานแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นอาการแบบซ่อนเร้น ทำให้คนจำนวนมากไม่ได้ตระหนักถึง และบางอย่างกว่าจะแสดงอาการก็ใช้เวลานาน เช่น อาการของโรคเบาหวาน ทำให้สืบย้อนกลับมาได้ยาก ต้องอาศัยระบาดวิทยา ว่ากลุ่มคนที่กินนมวัวเยอะ เจอโรคอะไรได้บ่อยกว่ากลุ่มคนที่กินนมวัวน้อยกว่า เมื่อตัดปัจจัยอื่นที่อาจเป็นสาเหตุออกไปแล้ว
อาการบางอย่างแสดงออกเมื่ออายุน้อย เช่น อาการผื่นแพ้ผิวหนัง อาการถ่ายเป็นมูกเลือด เมื่อโตขึ้น ระบบผิวหนัง และระบบลำไส้ แข็งแรงมากขึ้น ถึงแม้จะได้รับนมวัวเข้าไปภายหลัง ก็ไม่แสดงอาการออกเหมือนเดิม ทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดว่า ลูกหายจากแพ้นมวัวแล้ว จึงให้ลูกกินนมวัวใหม่ แต่ที่จริงแล้ว บางคนอาจยังแพ้อยู่ แล้วแสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจ ทำให้เป็นหวัดบ่อย หอบหืด #ปอดบวม ไซนัสอักเสบ #หูอักเสบบ่อยๆ ต้องกินยาปฏิชีวนะมากมาย แต่หากฉุกใจคิดว่า อาจเป็นจากนมวัว เมื่อหยุดกินนมวัว อาการก็จะดีขึ้น ทำให้ป่วยน้อยลงอย่างชัดเจน
เมื่อลูกเจ็บป่วยบ่อย ผลที่ตามมา คือ
• โรคนี้จะทําให้เด็กหลับไม่สนิท เนื่องจากคันตามตัว หรือ หายใจจมูกไม่โล่ง หรือ ป่วยเจ็บคอบ่อยๆส่งผลให้ต่อมอดีนอยด์และต่อมทอนซิลโต เกิดอาการ#นอนกรน และหยุดหายใจขณะนอนหลับ เพราะทางเดินหายใจตีบแคบลงจากถูกเบียดด้วยต่อมที่โตดังกล่าว ก็จะส่งผลให้เด็กเรียนไม่รู้เรื่อง ง่วงซึม เป็นเด็กขี้หงุดหงิด ก้าวร้าว หรือ ซนมาก